Categories: อัพเดทเทรนด์Published On: 4 มกราคม 2566

อาการหายใจผิดปกติของเด็ก เป็นเรื่องที่ห้ามมองข้ามนะครับ เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านต้องเคยแอบสงสัยว่าลูกน้อย (โดยเฉพาะเด็กทารก) บางครั้งดูเหมือนหายใจเร็ว หายใจแรง การที่เด็กหายใจเร็วและแรง คงทำให้คุณพ่อและคุณแม่ต้องกังวลว่าจะมีการหายใจที่ผิดปกติหรือไม่ จะเกิดโรคร้ายแรงอะไรหรือเปล่า เพราะอาการเหล่านี้ อาจเกิดจาก ไข้หวัด ที่ทำให้มีน้ำมูก มีเสมหะอุดตันในหลอดลม หรืออาจเป็นโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ แต่ก่อนจะไปเช็ควิธีสังเกตทารกหายใจผิดปกติของเด็กๆ มาดูวิธีนับการหายใจของเด็ก กันก่อนนะครับ สีเดลต้าจะมาแนะนำวิธีการสังเกตอาการหายใจของเด็ก เบื้องต้นนะครับ

วิธีการนับอัตราการหายใจและการเต้นหัวใจของเด็กในแต่ละช่วงวัย
โดยปกติในทารกและเด็กจะมีอัตราการหายใจเร็ว และจะค่อยๆ ช้าลงจนกระทั่งถึงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่
ถ้าอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น อัตราการหายใจจะเพิ่มตามด้วย เพื่อที่จะช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกาย และให้ได้รับออกซิเจนเพียงพอใจการเผาผลาญสารอาหาร การนับอัตราการหายใจจะช่วยให้ทราบว่าเด็กมีการหายใจเพียงพอหรือไม่ หากว่าการหายใจไม่เพียงพอร่างกายเราจะหายใจเร็วขึ้นและแรงขึ้น วิธีการวัดอัตราการหายใจ การนับอัตราการหายใจต้องนับให้ครบ 1 นาที ขณะที่เด็กสงบหรือพัก ถ้านับอัตราการหายใจขณะเด็กร้องไห้ จะได้ค่าที่คลาดเคลื่อนไม่ตรงกับความเป็นจริง

  • สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จะสังเกตการเคลื่อนไหวของท้องขึ้นลง นับเป็น 1 ครั้งใน 1 นาที
  • สำหรับเด็กอายุมากกว่า 7 ปี จะสังเกตจาการเคลื่อนไหวของทรวงอกขึ้นลงนับเป็น 1 ครั้งใน 1 นาที

สีห้องนอนเด็ก,ห้องนอนเด็ก

เด็ก มีอัตราการหายใจผิดปกติ สังเกตยังไง ?

  • วิธีสังเกตการหายใจผิดปกติ

1.เด็กมีอัตราการหายใจไม่ตามเกณฑ์ จำนวนครั้งของการหายใจต่อนาทีมากกว่าเกณฑ์ตามอายุ หรือมีอัตราการหายใจมากกว่า 60 ครั้งต่อนาที

2.หายใจมีเสียง ลูกมีเสียงหายใจที่ดังวี้ดๆ ในขณะที่เด็กหายใจเข้า จะมีเสียงดังครืดคราดคล้ายกับคัดจมูก และในขณะหายใจออกนะครับ

3.ภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ โดยให้สังเกตจาก ใบหน้า ปากจะมีความสีคล้ำ เขียว หรือซีด รวมถึง ปลายมือปลายเท้าเขียวด้วยนะครับ

4.ปีกจมูกขยายกว้าง เด็กจะมีอาการปีกจมูกขยายกว้างออกทุกครั้งที่หายใจเข้า เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของการหายใจลำบาก

5.มีอาการอกบุ๋ม โดยปกติในเด็กเล็กเมื่อหายใจเข้า ท้องและอกของเด็กจะป่องออก เมื่อหายใจออก ท้องและอกของเด็กจะหุบเข้า แต่ถ้ามีอาการหายใจลำบาก จะมีอาการใต้ชายโครงของเด็กจะบุ๋มเข้า ในขณะที่ท้องและอกจะป่องออก

6.หยุดหายใจเป็นพักๆ

7.มีอาการร่วมอื่นๆ ด้วย เช่น ไม่ยอมดูดนม มีไข้ หรือดูซึมผิดปกติ

เมื่อคุณพ่อคุณแม่ได้ทราบแล้วว่าสาเหตุที่เด็กๆ เกิดหายใจที่ผิดปกติจากข้อสังเกต หากเด็กมีอาการตามนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นครบทุกข้อนะครับ ควรต้องรีบพาไปพบแพทย์ เพื่อรับตรวจวินิจฉัยที่ชัดเจน โดยการตรวจร่างกายหรือตรวจพิเศษพิ่มเติมเท่านั้นนะครับ จึงจะทราบว่าการหายใจของเด็กผิดปกติจริงหรือไม่ และเกิดจากสาเหตุอะไรนะครับ เพราะถึงแม้เด็กจะอยู่ในห้องที่ช่วยให้อารมณ์เบิกบานแค่ไหนแต่ถ้าสภาพแวดล้อมภายในห้อง ไม่สะอาดและมีเชื้อโรคสะสมอยู่มาก ก็จะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยตามมาในภายหลังได้นะครับ

สีห้องนอนเด็ก,ห้องนอนเด็ก

ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปราศจากสารปรอท และตะกั่ว LOW Voc ด้วยนวัตกรรมนี้จึงทำให้สามารถเข้าอยู่ได้ทันทีหลังจากทา ไม่มีกลิ่นฉุ่นคอยกวนใจ ปลอดภัยต่อการหายใจของเด็กๆ และยังเพิ่มเกราะป้องกันให้ฟิล์มสีทำให้มีเนื้อฟิล์มสีที่เนียนสวย ไม่ว่าเด็กๆ จะเล่นซุกซนหรือทำกิจกรรมที่ต้องเลอะเทอะต่อผนังบ้านจนทำให้เกิดคราบสกปรกก็สามารถทำความสะอาดได้ เพราะมีเทคโนโลยี Easy Clean เช็ดล้างง่าย ทนต่อการขัดถูจึงสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายกว่าที่เคย และยังปกป้องแบคทีเรีย และเชื้อราภายในบ้าน ไม่ทำลายสุขภาพปลอดภัยกับทุกคนในครอบครัวอีกด้วย

การเตรียมห้องนอนเด็กก็สำคัญ !
หลังจากที่เด็กๆ เริ่มโตขึ้นคุณพ่อคุณแม่คงเริ่มมีคำถามว่า แล้วเราควรจะเริ่มแยกห้องนอนให้เด็ก เมื่อไหร่ดี เวลาไหนที่เหมาะสมในการแยกห้องนอนเด็ก ใช่มั้ยล่ะครับ เพราะยังไม่มีคำแนะนำที่ชัดเจนและขึ้นอยู่กับกับความปลอดภัยของเด็ก ด้วยแต่ก็ไม่ใช่ว่าเด็กๆ ทุกคนควรต้องแยกห้องนอนแล้วนะครับ เพราะเวลาที่เหมาะสมนั้น ขึ้นกับความพร้อมของพ่อแม่ ความพร้อมของเด็ก และที่สำคัญ คือความปลอดภัยของห้องนอนเด็ก ทั้งจากเชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อราในห้องนอน อีกอย่างที่สำคัญคือเรื่องการตกแต่งห้องนอนเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ยังเป็นกังวล เพราะสามารถตกแต่งได้หลากหลายรูปแบบ

สีเดลต้าเลยจะมาแชร์ไอเดียการตกแต่งห้องนอนเด็ก ออกตามช่วงวัยของเด็กๆ ซึ่งมีอยู่ 3 ช่วงวัย ดังนี้นะครับ

  • ช่วงอายุ 2-5 ขวบ
  • ช่วงอายุ 5-10 ขวบ
  • ช่วงอายุ 10 ขวบขึ้นไป

สีห้องนอนเด็ก,ห้องนอนเด็ก

การตกแต่งห้องนอนเด็กช่วงอายุ 2-5 ขวบ
ห้องนอนเด็ก ช่วงอายุ 2-5 ขวบนั้นอาจจะยังไม่เน้นการนอนมากเพราะเด็กนั้นยังเล็กอยู่แต่อาจจะเริ่มปล่อยให้เขาได้ค่อยๆ ปรับตัวเพื่อจะได้คุ้นชินกับห้อง แรกๆ คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมตัวให้เด็กได้รู้สึกสนุกตื่นเต้นกับห้องของตัวเอง พูดถึงข้อดี เช่น จะได้เตียงของตัวเอง ผ้าปูเตียงลายที่ชอบ แต่ไม่ควรมี โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กโทรนิคส์ที่มีจอในห้องโดยเด็ดขาด เพราะทำให้คุณภาพการนอนนั้นไม่ดีนะครับ

การตกแต่งห้องนอนเด็กช่วงอายุ 5-10 ขวบ
เด็กในช่วงวัยนี้จะเน้นไปที่พัฒนาการการเรียนรู้ การจดจำ และมีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความต้องการที่ชัดเจน ทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถรู้ถึงความต้องการของเด็กๆ ได้ควรมีของใช้ที่ต้องเน้นใช้ประโยชน์มากขึ้น เช่น โต๊ะเขียนหนังสือ ตู้เสื้อผ้า หรือชั้นวางของ ทำให้ในห้องนอนเด็กๆ วัยนี้มีองค์ประกอบหลายๆ อย่าง และในเรื่องของจินตนาการ ภายในห้องนอนเด็กนั้นอาจจะแยกส่วนเฉพาะที่เด็กจะทำการบ้าน หรือส่วนที่เขาใช้เป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมส่วนตัวต่างๆ ก็ได้นะครับ

การตกแต่งห้องนอนเด็กในช่วงอายุ 10 ขวบขึ้นไป
สำหรับเด็กในวัยนี้ เป็นวัยกำลังโตและกำลังจะก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ในห้องนอน จึงเพิ่มโต๊ะแต่งตัว ชั้นวางของต่างๆ หรือโต๊ะทำงานของเด็กๆ และอาจจะมีสิ่งอื่นๆ เข้ามาภายในห้องมากขึ้น อาจจะเป็น คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องดนตรีชิ้นโปรด ซึ่งเด็กๆในวัยนี้มักชอบเก็บของไว้ในห้องนอนของตัวเองมากๆ
โดยการจัดห้องนอนในช่วงวัยนี้จะต่างกันไปตามความชอบหรือนิสัยของเด็กๆ แต่ละคนนะครับ

หากคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาสีทาภายในบ้านใหม่และมีเด็กน้อยวัยซนในบ้านด้วย อย่าลืมเลือกใช้ สีเดลต้า คลีนแอนด์แคร์ (Delta Clean & Care) “สีนี้ที่ แคร์ คุณ” รับรองได้ว่าไม่ผิดหวังแน่นอนนะครับ

สีห้องนอนเด็ก,ห้องนอนเด็ก

หาซื้อได้ที่ไหนบ้าง
สีเดลต้า คลีนแอนด์แคร์ (Delta Clean & Care) หาซื้อได้ที่ ร้านขายสีทั่วประเทศ สามารถสอบถามราคาขายได้จากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายสีเดลต้า
อยากได้คำแนะนำเรื่องสีทาบ้าน ทักมาพูดคุยกับเดลูต้าได้เลยครับ ที่ Line: @Deltapaint หรือ คลิกที่นี่ https://bit.ly/3JIzkiA

และคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนอยากได้ไอเดียการทาสีห้องนอนให้กับเด็กๆ เพิ่มเติมสีเดลต้าขอฝากบทความดีๆ เกี่ยวกับการเลือกใช้สีในห้องนอนเด็ก สามารถคลิกได้จากลิงค์นี้เลยนะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก : healthline.com,babygaga.com,.th.wikipedia.org,.amarinbabyandkids.com

Categories: อัพเดทเทรนด์Published On: 4 มกราคม 2566

อาการหายใจผิดปกติของเด็ก เป็นเรื่องที่ห้ามมองข้ามนะครับ เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านต้องเคยแอบสงสัยว่าลูกน้อย (โดยเฉพาะเด็กทารก) บางครั้งดูเหมือนหายใจเร็ว หายใจแรง การที่เด็กหายใจเร็วและแรง คงทำให้คุณพ่อและคุณแม่ต้องกังวลว่าจะมีการหายใจที่ผิดปกติหรือไม่ จะเกิดโรคร้ายแรงอะไรหรือเปล่า เพราะอาการเหล่านี้ อาจเกิดจาก ไข้หวัด ที่ทำให้มีน้ำมูก มีเสมหะอุดตันในหลอดลม หรืออาจเป็นโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ แต่ก่อนจะไปเช็ควิธีสังเกตทารกหายใจผิดปกติของเด็กๆ มาดูวิธีนับการหายใจของเด็ก กันก่อนนะครับ สีเดลต้าจะมาแนะนำวิธีการสังเกตอาการหายใจของเด็ก เบื้องต้นนะครับ

วิธีการนับอัตราการหายใจและการเต้นหัวใจของเด็กในแต่ละช่วงวัย
โดยปกติในทารกและเด็กจะมีอัตราการหายใจเร็ว และจะค่อยๆ ช้าลงจนกระทั่งถึงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่
ถ้าอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น อัตราการหายใจจะเพิ่มตามด้วย เพื่อที่จะช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกาย และให้ได้รับออกซิเจนเพียงพอใจการเผาผลาญสารอาหาร การนับอัตราการหายใจจะช่วยให้ทราบว่าเด็กมีการหายใจเพียงพอหรือไม่ หากว่าการหายใจไม่เพียงพอร่างกายเราจะหายใจเร็วขึ้นและแรงขึ้น วิธีการวัดอัตราการหายใจ การนับอัตราการหายใจต้องนับให้ครบ 1 นาที ขณะที่เด็กสงบหรือพัก ถ้านับอัตราการหายใจขณะเด็กร้องไห้ จะได้ค่าที่คลาดเคลื่อนไม่ตรงกับความเป็นจริง

  • สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จะสังเกตการเคลื่อนไหวของท้องขึ้นลง นับเป็น 1 ครั้งใน 1 นาที
  • สำหรับเด็กอายุมากกว่า 7 ปี จะสังเกตจาการเคลื่อนไหวของทรวงอกขึ้นลงนับเป็น 1 ครั้งใน 1 นาที

สีห้องนอนเด็ก,ห้องนอนเด็ก

เด็ก มีอัตราการหายใจผิดปกติ สังเกตยังไง ?

  • วิธีสังเกตการหายใจผิดปกติ

1.เด็กมีอัตราการหายใจไม่ตามเกณฑ์ จำนวนครั้งของการหายใจต่อนาทีมากกว่าเกณฑ์ตามอายุ หรือมีอัตราการหายใจมากกว่า 60 ครั้งต่อนาที

2.หายใจมีเสียง ลูกมีเสียงหายใจที่ดังวี้ดๆ ในขณะที่เด็กหายใจเข้า จะมีเสียงดังครืดคราดคล้ายกับคัดจมูก และในขณะหายใจออกนะครับ

3.ภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ โดยให้สังเกตจาก ใบหน้า ปากจะมีความสีคล้ำ เขียว หรือซีด รวมถึง ปลายมือปลายเท้าเขียวด้วยนะครับ

4.ปีกจมูกขยายกว้าง เด็กจะมีอาการปีกจมูกขยายกว้างออกทุกครั้งที่หายใจเข้า เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของการหายใจลำบาก

5.มีอาการอกบุ๋ม โดยปกติในเด็กเล็กเมื่อหายใจเข้า ท้องและอกของเด็กจะป่องออก เมื่อหายใจออก ท้องและอกของเด็กจะหุบเข้า แต่ถ้ามีอาการหายใจลำบาก จะมีอาการใต้ชายโครงของเด็กจะบุ๋มเข้า ในขณะที่ท้องและอกจะป่องออก

6.หยุดหายใจเป็นพักๆ

7.มีอาการร่วมอื่นๆ ด้วย เช่น ไม่ยอมดูดนม มีไข้ หรือดูซึมผิดปกติ

เมื่อคุณพ่อคุณแม่ได้ทราบแล้วว่าสาเหตุที่เด็กๆ เกิดหายใจที่ผิดปกติจากข้อสังเกต หากเด็กมีอาการตามนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นครบทุกข้อนะครับ ควรต้องรีบพาไปพบแพทย์ เพื่อรับตรวจวินิจฉัยที่ชัดเจน โดยการตรวจร่างกายหรือตรวจพิเศษพิ่มเติมเท่านั้นนะครับ จึงจะทราบว่าการหายใจของเด็กผิดปกติจริงหรือไม่ และเกิดจากสาเหตุอะไรนะครับ เพราะถึงแม้เด็กจะอยู่ในห้องที่ช่วยให้อารมณ์เบิกบานแค่ไหนแต่ถ้าสภาพแวดล้อมภายในห้อง ไม่สะอาดและมีเชื้อโรคสะสมอยู่มาก ก็จะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยตามมาในภายหลังได้นะครับ

สีห้องนอนเด็ก,ห้องนอนเด็ก

ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปราศจากสารปรอท และตะกั่ว LOW Voc ด้วยนวัตกรรมนี้จึงทำให้สามารถเข้าอยู่ได้ทันทีหลังจากทา ไม่มีกลิ่นฉุ่นคอยกวนใจ ปลอดภัยต่อการหายใจของเด็กๆ และยังเพิ่มเกราะป้องกันให้ฟิล์มสีทำให้มีเนื้อฟิล์มสีที่เนียนสวย ไม่ว่าเด็กๆ จะเล่นซุกซนหรือทำกิจกรรมที่ต้องเลอะเทอะต่อผนังบ้านจนทำให้เกิดคราบสกปรกก็สามารถทำความสะอาดได้ เพราะมีเทคโนโลยี Easy Clean เช็ดล้างง่าย ทนต่อการขัดถูจึงสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายกว่าที่เคย และยังปกป้องแบคทีเรีย และเชื้อราภายในบ้าน ไม่ทำลายสุขภาพปลอดภัยกับทุกคนในครอบครัวอีกด้วย

การเตรียมห้องนอนเด็กก็สำคัญ !
หลังจากที่เด็กๆ เริ่มโตขึ้นคุณพ่อคุณแม่คงเริ่มมีคำถามว่า แล้วเราควรจะเริ่มแยกห้องนอนให้เด็ก เมื่อไหร่ดี เวลาไหนที่เหมาะสมในการแยกห้องนอนเด็ก ใช่มั้ยล่ะครับ เพราะยังไม่มีคำแนะนำที่ชัดเจนและขึ้นอยู่กับกับความปลอดภัยของเด็ก ด้วยแต่ก็ไม่ใช่ว่าเด็กๆ ทุกคนควรต้องแยกห้องนอนแล้วนะครับ เพราะเวลาที่เหมาะสมนั้น ขึ้นกับความพร้อมของพ่อแม่ ความพร้อมของเด็ก และที่สำคัญ คือความปลอดภัยของห้องนอนเด็ก ทั้งจากเชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อราในห้องนอน อีกอย่างที่สำคัญคือเรื่องการตกแต่งห้องนอนเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ยังเป็นกังวล เพราะสามารถตกแต่งได้หลากหลายรูปแบบ

สีเดลต้าเลยจะมาแชร์ไอเดียการตกแต่งห้องนอนเด็ก ออกตามช่วงวัยของเด็กๆ ซึ่งมีอยู่ 3 ช่วงวัย ดังนี้นะครับ

  • ช่วงอายุ 2-5 ขวบ
  • ช่วงอายุ 5-10 ขวบ
  • ช่วงอายุ 10 ขวบขึ้นไป

สีห้องนอนเด็ก,ห้องนอนเด็ก

การตกแต่งห้องนอนเด็กช่วงอายุ 2-5 ขวบ
ห้องนอนเด็ก ช่วงอายุ 2-5 ขวบนั้นอาจจะยังไม่เน้นการนอนมากเพราะเด็กนั้นยังเล็กอยู่แต่อาจจะเริ่มปล่อยให้เขาได้ค่อยๆ ปรับตัวเพื่อจะได้คุ้นชินกับห้อง แรกๆ คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมตัวให้เด็กได้รู้สึกสนุกตื่นเต้นกับห้องของตัวเอง พูดถึงข้อดี เช่น จะได้เตียงของตัวเอง ผ้าปูเตียงลายที่ชอบ แต่ไม่ควรมี โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กโทรนิคส์ที่มีจอในห้องโดยเด็ดขาด เพราะทำให้คุณภาพการนอนนั้นไม่ดีนะครับ

การตกแต่งห้องนอนเด็กช่วงอายุ 5-10 ขวบ
เด็กในช่วงวัยนี้จะเน้นไปที่พัฒนาการการเรียนรู้ การจดจำ และมีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความต้องการที่ชัดเจน ทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถรู้ถึงความต้องการของเด็กๆ ได้ควรมีของใช้ที่ต้องเน้นใช้ประโยชน์มากขึ้น เช่น โต๊ะเขียนหนังสือ ตู้เสื้อผ้า หรือชั้นวางของ ทำให้ในห้องนอนเด็กๆ วัยนี้มีองค์ประกอบหลายๆ อย่าง และในเรื่องของจินตนาการ ภายในห้องนอนเด็กนั้นอาจจะแยกส่วนเฉพาะที่เด็กจะทำการบ้าน หรือส่วนที่เขาใช้เป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมส่วนตัวต่างๆ ก็ได้นะครับ

การตกแต่งห้องนอนเด็กในช่วงอายุ 10 ขวบขึ้นไป
สำหรับเด็กในวัยนี้ เป็นวัยกำลังโตและกำลังจะก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ในห้องนอน จึงเพิ่มโต๊ะแต่งตัว ชั้นวางของต่างๆ หรือโต๊ะทำงานของเด็กๆ และอาจจะมีสิ่งอื่นๆ เข้ามาภายในห้องมากขึ้น อาจจะเป็น คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องดนตรีชิ้นโปรด ซึ่งเด็กๆในวัยนี้มักชอบเก็บของไว้ในห้องนอนของตัวเองมากๆ
โดยการจัดห้องนอนในช่วงวัยนี้จะต่างกันไปตามความชอบหรือนิสัยของเด็กๆ แต่ละคนนะครับ

หากคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาสีทาภายในบ้านใหม่และมีเด็กน้อยวัยซนในบ้านด้วย อย่าลืมเลือกใช้ สีเดลต้า คลีนแอนด์แคร์ (Delta Clean & Care) “สีนี้ที่ แคร์ คุณ” รับรองได้ว่าไม่ผิดหวังแน่นอนนะครับ

สีห้องนอนเด็ก,ห้องนอนเด็ก

หาซื้อได้ที่ไหนบ้าง
สีเดลต้า คลีนแอนด์แคร์ (Delta Clean & Care) หาซื้อได้ที่ ร้านขายสีทั่วประเทศ สามารถสอบถามราคาขายได้จากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายสีเดลต้า
อยากได้คำแนะนำเรื่องสีทาบ้าน ทักมาพูดคุยกับเดลูต้าได้เลยครับ ที่ Line: @Deltapaint หรือ คลิกที่นี่ https://bit.ly/3JIzkiA

และคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนอยากได้ไอเดียการทาสีห้องนอนให้กับเด็กๆ เพิ่มเติมสีเดลต้าขอฝากบทความดีๆ เกี่ยวกับการเลือกใช้สีในห้องนอนเด็ก สามารถคลิกได้จากลิงค์นี้เลยนะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก : healthline.com,babygaga.com,.th.wikipedia.org,.amarinbabyandkids.com

ชอบบทความนี้แชร์เลย